Image

การประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 16 (The 16th IMT-GT Summit)

การพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย
Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle (IMT-GT)

เมื่อวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568 นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 16 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (The 16th IMT-GT Summit) ซึ่งอยู่ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 46 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายแอร์ลังกา ฮาร์ตาโต รัฐมนตรีประสานงานด้านเศรษฐกิจ ผู้แทนประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นายเกา กิม ฮวน เลขาธิการอาเซียน นายมาซาโตะ คันดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย รวมถึงรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสของประเทศสมาชิก แผนงาน IMT-GT โดยฝ่ายไทยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรัฐมนตรีประจำแผนงาน IMT-GT และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโส เข้าร่วม

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ IMT-GT พ.ศ. 2579 เพื่อมุ่งสู่การเป็นอนุภูมิภาคแห่งบูรณาการ การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ความเหลื่อมล้ำน้อย และเติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้กล่าวถึงความสำเร็จสำคัญตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาในด้านการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การบูรณาการทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนุภูมิภาค พร้อมทั้งแสดงความยินดีต่อการลงนามกรอบความร่วมมือด้านศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง และกักกันโรค (FOC CIQ) ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายพรมแดนของสินค้าและบุคคลภายในอนุภูมิภาค นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะต่อแนวทางการดำเนินงานของแผนงาน IMT-GT 3 ประการ ได้แก่ (1) การส่งเสริมเกษตรกรรมที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มและความยั่งยืน โดยการยกระดับมาตรฐานการผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการผลิตอย่างรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยผลักดันการเป็นผู้นำด้านเกษตรกรรมยั่งยืน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ (2) การขับเคลื่อนนวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน รับมือกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสร้างความมั่นคงด้านอาหารและความยืดหยุ่นในอนาคต และ (3) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ดึงดูดการลงทุน และผลักดันการเติบโตในระยะยาว 

ในการนี้ มาเลเซียเน้นย้ำการสนับสนุนการดำเนินงานในหลายมิติ อาทิ การปฏิรูปเศรษฐกิจ การส่งเสริมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมฮาลาล ภาคการเกษตร และการผลักดันธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในอนุภูมิภาค นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนแนวทางการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และการเสริมสร้างการเชื่อมโยงในระดับอนุภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน ขณะที่อินโดนีเซียได้นำเสนอแนวทางยุทธศาสตร์ 3 ประการ ได้แก่ (1) การยกระดับการเชื่อมโยงอนุภูมิภาคผ่าน FOC CIQ (2) การพัฒนาธุรกิจการเกษตรอย่างยั่งยืน และ (3) การส่งเสริมความร่วมมือที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน พร้อมทั้งยืนยันความมุ่งมั่นในการผลักดันให้ความร่วมมือภายใต้แผนงาน IMT-GT สอดคล้องกับเป้าหมายของอาเซียน

นอกจากนี้ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และสำนักเลขาธิการอาเซียน ในฐานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาหลักของแผนงาน IMT-GT ได้ร่วมแสดงบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือในอนุภูมิภาค โดย ADB ได้เน้นย้ำบทบาทของแผนงาน IMT-GT ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียน พร้อมประกาศขยายการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการเมืองสีเขียว (Green City Action Plans: GCAP) และตั้งเป้าหมายเพิ่มการสนับสนุนทางการค้าภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็น 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ภายในปี 2573 เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน ในส่วนของเลขาธิการอาเซียน ได้เน้นย้ำการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2045 โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงในภูมิภาค การลดการปล่อยคาร์บอนในภาคเกษตรกรรม และการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาค พร้อมเสนอให้มีการประสานยุทธศาสตร์ IMT-GT ให้สอดคล้องกับแนวทางของอาเซียน ควบคู่กับการส่งเสริมการลงทุน การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน และการปฏิรูปกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างครอบคลุมและยั่งยืนในอนุภูมิภาค

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้รับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 16 แผนงาน IMT-GT (Joint Statement of the 16th IMT-GT Summit) ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันในการผลักดันวิสัยทัศน์ IMT-GT ปี 2579 ให้เป็นรูปธรรม โดยเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ผ่านแนวทางเศรษฐกิจสีเขียว สีน้ำเงิน และเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงการขับเคลื่อนการเติบโตด้วยนวัตกรรมดิจิทัล และการเสริมสร้างความสามารถในการรับมือกับความท้าทายระดับโลกอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : ข่าว: กองยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ภาพ: ทำเนียบรัฐบาล

SUMMIT15TH

SUMMIT15TH

SUMMIT15TH

SUMMIT15TH

SUMMIT15TH

SUMMIT15TH